ประชาสัมพันธ์ประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง กำหนดชื่อ ปริมาณ และเงื่อนไขของวัตถุที่อาจใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง
ประชาสัมพันธ์กฎหมายใหม่ คำเตือนของสารที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง
ประชาสัมพันธ์กฎหมายใหม่ เรื่อง การขอความเห็นเกี่ยวกับการโฆษณาเครื่องสำอาง
ประชาสัมพันธ์กฎหมายใหม่ เรื่องการโฆษณาเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดของผู้บริโภค ที่อาจเกิดขึ้นจากการโฆษณาเครื่องสำอาง
ประชาสัมพันธ์ระเบียบคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่องการโฆษณาเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิดของผู้บริโภค ที่อาจเกิดขึ้นจากการโฆษณาเครื่องสำอาง คลิกที่นี่เพื่ออ่านประกาศฉบับเต็ม
สธ.ประกาศอีก 180 วัน ห้ามผลิต นำเข้า จำหน่าย อาหารที่มีกรดไขมันทรานส์ เหตุมีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่าเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2561 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เลขที่ 388 พ.ศ.2561 เรื่อง กำหนดอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย
คลิกที่นี่เพื่ออ่านประกาศฉบับเต็ม
โดยปรากฎหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ชัดเจนว่า กรดไขมันทรานส์ (Trans Fatty Acids) จากน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils) ส่งผลต่อการเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 6 วรรคหนึ่ง และมาตรา 6 (8) แห่งพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้
ข้อ 1 ให้น้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนและอาหารที่มีน้ำมันที่ผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วนเป็นส่วนประกอบ เป็นอาหารที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือจำหน่าย
ข้อ 2 ประกาศฉบับนี้ ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2561
ปิยะสกล สกลสัตยาทร
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ ไขมันทรานส์ เกิดจากการนำน้ำมันมาผ่านกระบวนการเติมไฮโดรเจนบางส่วน (Partially Hydrogenated Oils, PHOs) ทำให้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นานโดยไม่เหม็นหืน ไม่เป็นไข พบมากในอาหารประเภทอาหารฟาสต์ฟู้ดซึ่งใช้เป็นน้ำมันสำหรับทอดไก่ มันฝรั่ง โดนัท เบเกอรี่ ขนมขบเคี้ยว ครีมเทียม และวิปปิ้งครีม เป็นต้น ปัจจุบันมีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่าไขมันทรานส์เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เกิดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด หากบริโภคมากเกินไป
แนวทางปฏิบัติสำหรับประชาชน และผู้เกี่ยวข้อง กรณีเรียกเก็บคืน “ยาวาลซาร์แทน (Valsartan)” หลังพบสารก่อมะเร็งในวัตถุดิบ
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้เผยแพร่ข่าว การเรียกเก็บคืนผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทน (Valsartan) จำนวน 5 ตำรับ ของบริษัท สีลมการแพทย์ จำกัด และบริษัท ยูนีซัน จำกัด ต่อไปนี้
หมายเหตุ: กดที่ชื่อการค้าของยา เพื่อดูรายละเอียดการเรียกเก็บคืนยาแต่ละรายการ เนื่องจากมีการใช้วัตถุดิบในการผลิตยาดังกล่าวของโรงงาน Zhejiang Huahai Pharmaceuticals ซึ่งได้รับแจ้งการตรวจพบสารปนเปื้อนที่อาจก่อมะเร็ง และมีการเรียกเก็บคืนผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทน (Valsartan) ของบริษัทต่างๆ ที่ใช้วัตถุดิบในการผลิตยาจากแหล่งดังกล่าว ในหลายประเทศแล้วเช่นกัน นั้น ล่าสุด สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้แจ้ง คำแนะนำสำหรับผู้ใช้ยาที่มียาตำรับดังกล่าวข้างต้นที่มีการเรียกเก็บคืน รวมทั้งคำแนะนำสำหรับ แพทย์ คลินิก ร้านยา คำแนะนำในการปฏิบัติสำหรับผู้ใช้ยาที่มียาตำรับดังกล่าวข้างต้นที่มีการเรียกเก็บคืน
คำแนะนำในการปฏิบัติสำหรับ แพทย์ คลินิก ร้านยา
ขอเชิญผู้เกี่ยวข้อง/ผู้สนใจติดตามรายละเอียด/ download เอกสารข่าวประชาสัมพันธ์ข้างต้น ได้จากเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (www.fda.moph.go.th) หรือกดที่ link ต่อไปนี้ ที่มา: สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา |
ด่วน!! อย. เรียกเก็บคืน “ยาวาลซาร์แทน (Valsartan)” 5 ตำรับ
ามที่มีการเรียกเก็บคืนผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทน (Valsartan) ยารักษาโรคความดันโลหิตสูง ในประเทศต่างๆ จากบริษัทผู้ผลิตซึ่งมีการใช้วัตถุดิบในการผลิตยาดังกล่าวของ บริษัท Zhejiang Huahai Pharmaceuticals เนื่องจากพบสารปนเปื้อนที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งในวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตยานั้น
ในประเทศไทย มีบริษัทผู้รับอนุญาตผลิต/นำหรือสั่งยาวาลซาร์แทนเข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 7 บริษัท และมีทะเบียนตำรับยาที่ได้รับอนุญาตให้จำหน่าย จำนวนทั้งสิ้น 14 ตำรับ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า มีบริษัทผู้รับอนุญาตที่ใช้วัตถุดิบจาก Zhejiang Huahai Pharmaceuticals เพียง 2 ราย ได้แก่ บริษัท สีลมการแพทย์ จำกัด และ บริษัท ยูนีซัน จำกัด ซึ่งมีเลขทะเบียนตำรับ รวม 5 ตำรับ ได้แก่
บริษัทผู้รับอนุญาต | เลขทะเบียนตำรับ |
---|---|
บริษัท สีลมการแพทย์ จำกัด | 1A 9/54 (NG) |
1A 10/54 (NG) | |
บริษัท ยูนีซัน จำกัด | 1A 4/60 (NG) |
1A 5/60 (NG) | |
1A 6/60 (NG) |
ขณะนี้ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ออกมาตรการเรียกเก็บคืนยาใน 5 ตำรับทุกรุ่นการผลิตคืนจากท้องตลาดภายใน 15 วัน พร้อมทั้งมีคำสั่งให้ผู้รับอนุญาตผลิตยาทั้งสองแห่ง ระงับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทนทุกทะเบียนที่มีการใช้วัตถุดิบวาลซาร์แทนจากแหล่งผลิตดังกล่าวเป็นการชั่วคราว รวมทั้งระงับการจำหน่ายเภสัชเคมีภัณฑ์วาลซาร์แทน ที่มาจากแหล่งผลิตดังกล่าวแล้ว
และได้ขอความร่วมมือผู้ใช้ยาตรวจสอบเลขทะเบียนตำรับของผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทนที่ใช้อยู่ หากตรงกับเลขทะเบียนตำรับข้างต้น ให้ส่งกลับคืนสถานพยาบาลหรือร้านยาที่จ่ายยาดังกล่าว เพื่อดำเนินการทำลายยาต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่เคยได้รับผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทนในการรักษามาอย่างต่อเนื่อง ยังคงสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ยาวาลซาร์แทน เลขทะเบียนตำรับอื่นที่ไม่มีการปนเปื้อนสารก่อมะเร็งดังกล่าวได้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปใช้ยารักษาโรคความดันโลหิตสูงตัวอื่น
กดที่นี่เพื่ออ่านรายละเอียด/ download เอกสาร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
EMA reviewing medicines containing valsartan from Zhejiang Huahai following detection of an impurity
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์ กองพัฒนาศักยภาพผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา วันที่ 14 กรกฎาคม 2561
U.S.FDA News Release 13/7/2018
The European Medicines Agency (EMA) Press Release 5/7/2018
มีผล 14 กรกฎานี้!! ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2561
กระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศ ณ วันที่ 29 มิถุนายน 2561 เรื่อง ยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2561 ให้เพิ่มยาต่อไปนี้ เป็นยาสามัญประจำบ้านแผนปัจจุบัน ยาบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกและอาหารไม่ย่อย เนื่องจากกรดไหลย้อนชนิดเม็ด ยาบรรเทาอาการแสบร้อนกลางอกและอาหารไม่ย่อย เนื่องจากกรดไหลย้อนชนิดน้ํา ให้ใช้บังคับนับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป (ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 135 ตอนพิเศษ 166 ง วันที่ 13 กรกฎาคม 2561) |
สสจ.ฉะเชิงเทราประชุมคณะอนุกรรมการสถานพยาบาลประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา
ด่วน!! รับฟังความคิดเห็น (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2 ฉบับ
ด้วยคณะอนุกรรมการพิจารณาปรับเปลี่ยนประเภทยา มีมติเห็นชอบให้มีการปรับลดระดับ “ยาที่มีนิโคติน (Nicotine) หรือสารประกอบของนิโคติน ซึ่งมุ่งหมายที่จะใช้สำหรับช่วยการอดบุหรี่ รูปแบบหมากฝรั่งสำหรับเคี้ยว (chewing gum)” จาก “ยาอันตราย” เป็น “ยาที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ” และเห็นชอบเอกสารกำกับยาสำหรับประชาชนของยารูปแบบดังกล่าว (มติที่ประชุมฯ ครั้งที่ 1/2560 วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560, ครั้งที่ 3/2561 ในวันที่ 24 เมษายน 2561 และ ครั้งที่ 4/2561 วันที่ 7 มิถุนายน 2561
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดยสำนักยา จึงได้จัดทำ(ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 2 ฉบับ คือ
และเปิดรับฟังความคิดเห็น (ร่าง) ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ทั้ง 2 ฉบับดังกล่าว ทั้งนี้ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องสามารถส่งความเห็น กลับไปยัง druglaw@fda.moph.go.th หรือ druglawfda@gmail.com ภายในวันที่ 7 กรกฎาคม 2561 กดที่ link ต่อไปนี้ เพื่อศึกษารายละเอียด/ download เอกสารที่เกี่ยวข้อง |